๗o พรรษา ๗ พระราชนิพนธ์แปลทรงคุณค่า
“ใดๆในโลกล้วนไม่จีรัง”
เมื่ออ่านครบทั้ง 7 เล่มจะช่วยให้ผู้อ่านพินิจสารที่ซ่อนอยู่ ในยุคที่ความเปลี่ยนแปลงอันเป็นสัจธรรมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วว่าใดๆในโลกล้วนไม่จีรัง เริ่มจากความรักแบบพื้นฐานของหญิงชายใน “ความรักใดจะไม่ปวดร้าว” มาสู่ความรักอันไม่มีสิ้นสุดที่นำไปสู่ความรักอันยิ่งใหญ่กว่า คือการรักชาติบ้านเมืองใน “มรกต” ขณะเดียวกันความรักในชาติบ้านเมืองก็สะท้อนให้เห็นถึงการพลิกผันของชีวิตที่มีขึ้นมีลง จากจุดสูงสุดสู่จุดตกต่ำสุดและขึ้นสู่จุดสุงสุดอีกครั้งใน “ผีเสื้อ” หรือการอยากยึดมั่นอยู่กับอุดมการณ์ ในขณะที่กระแสสังคมกำลังวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่เคยหยุดรอเราใน “เมฆเหิน น้ำไหล” จากนั้นลองมองเลยตัวเราไปบ้าง หันไปมองภาพใหญ่ของโลกและสังคม เช่น ความเสื่อมสลายทางจิตวิญญาณของสังคมสมัยใหม่ที่มนุษย์ใช้วัตถุเป็นเครื่องวัดความสุขในชีวิต ปล่อยตนให้จมอยู่กับความสุขจอมปลอม ไม่ยอมรับความเป็นจริง หรือไม่กล้าพอที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนและของสังคมจนถึงวาระสุดท้ายที่สายเกินแก้ใน “ความฝัน” และเมื่อเราตระหนักรู้ในสัจธรรมก็ย่อมนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นใน “เพียงวันพบวันนี้ที่สำคัญ” ปิดท้ายด้วยการอ่านบทกวีอันลุ่มลึกของปรัชญาจีนใน “หยกใสร่ายคำ” ที่รวมทุกอารมณ์ของมนุษย์ทั้งสุข เศร้า เหงา รัก มาสะท้อนให้เห็นถึงแก่นสัจธรรมความจริงของชีวิตมนุษย์
จุดเด่น
- เข้าใจในสัจธรรมของชีวิตว่าใดๆในโลกล้วนเปลี่ยนแปลง หวังอย่างหนึ่งได้สิ่งที่ตรงกันข้าม
- ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงและบริบทที่เปลี่ยนไปของสังคมจีนผ่านวรรณกรรมชุดนี้
- ได้ไตร่ตรองเปรียบเทียบกับชีวิตตนเองและพินิจสารที่ซ่อนอยู่ในยุคที่ความเปลี่ยนแปลงอันเป็นสัจธรรมนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว